วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

วัดพระธรรมกาย หลอกลวง ท่านจริงหรือไม่ อย่างไร?

        ก่อนหน้าที่ข้าพเจ้ายังไม่เข้าวัดพระธรรมกาย ข้าพเจ้าไม่ได้มีความกลัวเกี่ยวกับเรื่องของการทำผิดศีลเลย เพราะในชีวิตประจำวันก็เห็นว่าใครๆ เขาก็ผิดศีลกันเป็นปกติทุกข้อกันทั้งนั้น ส่วนตัวข้าพเจ้าเอง จะผิดศีลข้อ 1(ไม่ฆ่าสัตว์) กับข้อ 4(ไม่พูดปด) อยู่เป็นประจำ ที่ผิดศีลข้อ 1 เพราะเห็นว่าสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ การฆ่าสัตว์เพื่อนำมาประกอบอาหารจึงไม่ผิด สัตว์ตัวเล็กๆ น้อยๆ เช่น เหา ยุง มด ก็ถูกข้าพเจ้าบี้ และตบอยู่เป็นประจำ ส่วนที่ผิดศีลข้อ 4 ก็เพราะกลัวโดนดุ หรือไม่กล้าเผชิญความจริง จึงพูดโกหกเป็นประจำเหมือนกัน เพราะฉะนั้นศีล 5 ซึ่งจึงรักษาไว้ไม่ได้ แต่เมื่อได้มาเข้าวัด โดยการชวนของคุณอรวรรณ เนื้อนุ่ม ซึ่งเป็นพี่ทำทำงานด้วยกัน พี่เขาจะชวนมาอยู่บ่อยๆ ข้าพเจ้าก็มาบ้างไม่มาบ้าง ณ ตอนนั้น และก็ยังไม่ได้ฟังเทศน์จากหลวงพ่อ หลวงพี่ ที่เป็นพระอาจารย์ที่วัดอย่างตั้งใจ ณ ตอนแรกจึงยังใช้ชีวิตแบบผิดศีลเป็นปกติตามเดิม แต่เนื่องด้วยพี่อรวรรณจะชวนข้าพเจ้ามาวัดอยู่ตลอด ๆ ไม่เบื่อเลยแม้จะถูกปฏิเสธ เมื่อมาวัดก็จะชวนทำบุญทุกบุญที่ทางวัดจัดให้มีขึ้น และด้วยข้าพเจ้ามีความรู้สึกดีที่ว่าคนที่มาวัดนี้เป็นคนมีน้ำใจ มีจิตใจดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พูดจาไพเราะ เป็นกันเอง และ จึงทำให้ข้าพเจ้าได้มาวัดบ่อยขึ้น การมาวัดบ่อยก็ทำให้ได้ฟังธรรมะจากพระอาจารย์มากขึ้น จึงเข้าใจหลักการในการใช้ชีวิต พอเข้าใจแล้ว ก็ไม่กล้าทำบาป เพราะเห็นโทษว่าจะต้องได้รับผลตอบแทนจากการผิดศีลอย่างไร รู้เรื่องราวของกฏแห่งกรรม จึงกลายเป็นคนรักศีล ถือศีล 5 ได้เป็นปกติ วันพระหรือวันอาทิตย์ ก็ถือศีล 8 บ้าง เพราะเห็นตัวอย่างจากอุบาสก-อุบาสิกาที่อยู่ในวัดถือศีล 8 ได้เป็นปกติ สามเณรซึ่งเป็นเด็กถือศีล 10 เป็นปกติ และพระภิกษุถือศีลตั้ง 227 ข้อได้ เราเองแค่ศีล 5 ก็ต้องทำได้ 

        การได้เข้าวัด ทำให้ข้าพเจ้าเป็นคนดีขึ้นมาก มาวัดแล้วสบายใจ ได้อยู่แวดล้อมกับคนดี ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันเวลาที่ต้องเผชิญกับสิ่งยั่วยุให้กระทำผิด มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น กล้าที่จะยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง วัดพระธรรมกายจึงหลอกให้ข้าพเจ้าทำในสิ่งเหล่านี้